ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ชุดไทเขิน ทรงคุณค่า สวย สง่า สูงศักดิ์



ชุดไทเขิน
ชุดไทเขิน  เป็นประเด็นที่น่าสนใจขึ้นมา  เพราะกระแสละครบ่วงบรรจถรณ์ ที่เอาดาราร้อยล้านอย่างใหม่ดาวิกา โฮเน่  มาสวมบทบาทของแม่หญิงแพรนวล  สาวที่สามารถเดินทางข้ามเวลา  และไปพบรักกับ จายหลาวเปิง ที่นครเชียงตุง  ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในรัฐฉาน ประเทศเมียนม่าร์  ในปัจจุบัน
ชุดไทเขิน เสื้อไทเขิน ไทเขินไหม

ความสวยงามของชุดไทเขิน  ทำให้เกิดกระแสแฟชั่นชุดเจ้านางที่ฮิตใส่ไปงานกันทั่วบ้านทั่วเมือง  การสวมใส่ชุดที่ทำจากผ้าทอ  ผ้าไทย  กลายเป็นความสนใจของสาวๆขึ้นมาทันที  แม้กระทั่งตัวผู้เขียนเอง  ซึ่งแต่เดิมนั้นไม่เคยได้ใส่ใจกับผ้าไทย  ผ้าทอ  หรือแม้กระทั่งแฟชั่นด้วยซ้ำไป  เพราะเห็นเป็นเรื่องไกลตัว  แต่พอได้เข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง  กลับพบความน่าสนใจมากมาย  เกี่ยวกับการทอผ้าของไทย และผ้าทอของกลุ่มชนที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย  และยังรวมไปถึงการศึกษาประวัติศาสตร์ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน จนเกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆที่อยากจะบอกเล่าให้ผู้ที่สนใจ  ได้รับรู้และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบทอดคุณค่าของผ้าทอ  การแต่งกาย  ซึ่งอาจมีบางส่วนเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและแนวความคิดอันดีงามร่วมด้วย
             ชุดไทเขิน  เป็นชุดที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวไทลื้อ  ซึ่งตามประวัติศาสตร์  ชาวไทเขินจะได้รับการสืบเชื้อสายมากจากชาวไทลื้อ  จึงได้รับอิทธิพลของการแต่งกายมาด้วย  ซึ่งถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการเป็นลูกหลานของชาวไทยลื้อได้อย่างเด่นชัด  โดยการแต่งกายจะประกอบสามส่วนหลัก คือ
  1. เสื้อ 
  2. กางเกง/ผ้าซิ่น 
  3. ของใช้ส่วนตัวซึ่งหมายรวมถึง ผ้าโพกศีรษะ ผ้าพาดบ่าและกระเป๋าย่าม  
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นวัฒนธรรมการแต่งตัวที่ชาวไทลื้อปฏิบัติเป็นประจำทั้งในชีวิตประจำวัน  และในงานพิธีต่างๆ  และชาวไทเขินก็ได้รับอิทธิพลเหล่านี้มาด้วย
ผู้หญิงในชุดไทเขินแบบโบราณ  จะนิยมสวมเสื้อปั๊ด  นุ่งผ้าซิ่นต๋าลื้อลวดลายสวยงาม  และมักโพกศีรษะด้วยผ้าสีอ่อนเช่นสีขาวหรือสีชมพูเรียกวิธีการโพกหัวแบบไทเขินว่า  การเคียนหัวนอกจากนี้ยังมีการสะพายถุงย่ามและผ้าเช็ด หรือผ้าพาดบ่า  ซึ่ง ถือว่าเป็น ส่วนสำคัญประกอบ 3 อย่างที่ขาดไม่ได้ในการแต่งตัวตามแบบประเพณีนิยมของชุดไทเขิน
ส่วนผู้ชายในชุดแบบไทเขิน จะนิยมสวมเสื้อแขนยาวคอกลมผ่าหน้า และใช้กระดุมผ้าแบบของชาวจีน  นุ่งกางเกงเตี่ยวโย้งเหมือนชาวจีน  มักต่อหัวกางเกงด้วยผ้าสีขาว เรียกว่า  เตี่ยวหัวขาวบางครั้งอาจมีการสวมใส่กางเกงม่อฮ่อม ขายาว ในวันที่ไม่ได้มีพิธีการใดใด  โพกศีรษะเหมือนผู้หญิง  แต่ผู้ชายนิยมใช้ผ้าสีขาวเป็นหลัก อาจมีสีชมพูบ้างในบางโอกาส และต้องไม่ลืมที่จะสะพายถุงย่าม และพกผ้าเช็ดหน้าเช่นเดียวกับผู้หญิง
ชุดไทเขินเป็นรูปแบบของการแต่งตัวที่ชาวไทเขินยังนิยมใส่กันจนถึงปัจจุบัน  แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนผ้าให้มีความทันสมัยมากขึ้น  และราคาถูกลง  เพราะผ้าทอยุคใหม่เป็นผ้าที่ทอจากเครื่องจักร  ซึ่งอาจจะไม่มีความละเอียดมากเท่าผ้าทอมือ  แต่ก็ถือได้ว่ายังคงความเป็นเอกลักษณ์อยู่มากทีเดียว 
ส่วนเรื่องของชนิดผ้าและการออกแบบตัดเย็บ  ชุดไทเขิน ก็เป็นส่วนที่เราจะต้องพูดถึง  เพราะมันคือการพูดถึงคุณค่าของผ้าและรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของชาวไทเขินอีกอย่างหนึ่ง  ในที่นี้จะขอพูดเน้นในส่วนของชุดไทเขินสำหรับผู้หญิงเป็นหลัก  เพราะมันสามารถทำให้เรามองเห็นภาพของชุดไทเขินได้อย่างชัดเจน  ในส่วนของผู้ชาย  การแต่งตัวมักจะคล้ายคลึงกันแทบทุกกลุ่มชน  ซึ่งผู้เขียนได้กล่าวรายละเอียดไปบ้างแล้วข้างต้น
ชุดพื้นเมือง ผ้าซิ่น ผ้าถุง

ในส่วนของเสื้อปั๊ด การตัดเย็บเสื้อปั๊ด  เสื้อปัด  หรือเสื้อป้าย  ซึ่งภาษาเรียกอาจแตกต่างกัน  แต่ทุกแบบล้วนเป็นเสื้อรูปแบบเดียวกัน คือเป็นเสื้อแขนยาว ที่ไม่มีกระดุม แต่จะตัดแบบป้ายกลับไปกลับมา  แล้วเอาส่วนหน้าของเสื้อป้ายเฉียงมาผูกเอาไว้ที่เอวด้านข้าง  ซึ่งจะมีการเย็บผ้าให้เป็นเหมือนเส้นเชือกเพื่อใช้ผูกยึดติดกันเอาไว้  ( ให้นึกถึงเสื้อของคนไข้ที่ใช้ในโรงพยาบาล ) ชายเสื้อจะยกลอยขึ้นทั้งสองข้าง   ในเรื่องบ่วงบรรจถรณ์จะเน้นชายเสื้อสั้นๆเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งเป็นการประยุกต์เสื้อปั๊ดให้ทันสมัยขึ้น  เสื้อปั๊ดในรูปแบบของเมืองหลวงพระบาง มักจะมีการทำปกคอให้หนา  และมักจะเดินผ้าสีทองปิดทับตรงคอเสื้อ  อาจจะทั้งสองข้างหรือแค่คอเสื้อของชิ้นที่ทับอยู่ด้านนอก  เพียงข้างเดียวก็ได้  หรืออาจจะออกแบบเสื้อให้มีการกุ๊นขอบด้วยผ้าอีกสีหนึ่งตามชายเสื้อ  และแขนเสื้อโดยรอบ  
นอกจากนี้ เสื้อปั๊ดของชุดไทเขิน ไม่เน้นความตายตัวในเรื่องของเนื้อผ้า  เราสามารถใช้ผ้าได้หลายชนิดในการตัดเย็บ  เช่น ผ้าไหมลวดลายที่สวยงาม  ผ้ากำทะหยี่  ผ้าสักหลาด  ผ้าทอมือ  ผ้าแพร หรือผ้าฝ้ายสีต่างๆ  ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน  การดูแลและฤดูกาลที่สวมใส่  เพราะการสวมใส่เสื้อผ้ากระชับพอดีตัวในหน้าร้อน  ถ้าเป็นผ้าเนื้อหนามากๆ  ก็อาจจะไม่เหมาะสม  
ต่อมาคือลักษณะของผ้าซิ่น ซึ่งผ้าซิ่นตามแบบฉบับของชุดไทเขิน ซึ่งจะประกอบไปด้วยผ้า 3 ส่วน ส่วนแรกเรียกว่า หัวผ้าซิ่นมักจะเป็นผ้าทอลายริ้ว   ส่วนของ ตัวผ้าซิ่นส่วนนี้มักจะเป็นลายผ้ามัดหมี่ กูรูผ้าทอเรียกผ้าแบบนี้ว่า ซิ่นก่านหรือ มัดก่าน คาดก่าน ตามคำเรียกของชาวเหนือในประเทศไทย  ซึ่งผ้าซิ่นก่านนี้จะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ ก่านล้วน  ก่านม่าน และ ก่านป้อง  สำหรับสีที่นิยมใช้เช่น สีบานเย็น  สีชมพู  สีขาว  และสีม่วง ส่วนสุดท้าย  เรียกว่า ตีนผ้าซิ่นในส่วนนี้มักจะต่อด้วยผ้าสีอีกผืนหนึ่ง  ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าทอสีพื้นซึ่งหากเป็นซิ่นของชาวไทเขินแท้ๆ ตีนผ้าซิ่นจะเป็นสีเขียว เท่านั้น    ซึ่งลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัดอีกประการหนึ่งชุดไทเขินตามแบบโบราณ 
เครื่องประดับชุดพื้นเมือง
 
ส่วนเครื่องประดับที่ใช้กับชุดไทเขิน  มักเป็นเครื่องประดับที่ทำมาจากโลหะเงินเป็นส่วนมาก  มักจะสวมใส่เครื่องประดับพวกสร้อย  กำไล  และเข็มขัด กันในชีวิตประจำวัน  และจะจัดหนักในวันสำคัญที่มีงานพิธีที่ค่อนข้างเป็นทางการ
ชุดไทเขิน  ถือว่าเป็นความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ที่เห็นปุ๊บ  เราก็สามารถบอกได้ทันทีว่า  นี่คือการแต่งกายตามแบบชุดไทเขินขนานแท้  ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดี  ที่ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยไปนานแค่ไหน  แต่วัฒนธรรมการแต่งตัวของชาวไทเขิน  ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์เหล่านี้เอาไว้ได้เป็นอย่างดี  และยังมีให้เห็นจนถึงยุคปัจจุบัน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชุดไทเขิน ล้านนา

เสื้อปั๊ด ผ้าลูกไม้